สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่าน วันนี้เรากำลังพูดถึงเกม Sword of Convallaria ที่เป็นเกมแนว Turn-based Strategy (TBS) ที่ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับเกมรุ่นพี่ในตำนานอย่าง Final Fantasy Tactic ทั้งเรื่องราวในเกม ทั้งเกมเพลย์ กราฟิกแบบ Pixal Art มันทำให้ชวนคิดถึงจริง ๆ ถึงแม้ว่า Sword of Convallaria จะเคยเปิดเซิร์ฟไต้หวันไปแล้วครั้งหนึ่งและมีผู้เล่นไทยเข้าไปเล่นจำนวนหนึ่ง แต่ด้วยกำแพงทางภาษาก็ทำให้การเล่นไม่ค่อยไหลลื่นนัก แต่ตอนนี้ Sword of Convallaria กำลังจะเปิดเซิร์ฟ Global โดยเริ่มจาก CBT ในวันที่ 27 มิ.ย. – 4 ก.ค. นี้ และ OBT อีกครั้งในวันที่ 31 ก.ค. 2024 แต่ก่อนที่จะถึงตอนนั้น เรามีทำความรู้จักเกมนี้กันก่อนดีกว่าครับว่าคุณควรเตรียมรับมือกับอะไรบ้าง

1. ใครเคยเล่น Final Fantasy Tactic ก็เล่นเกมนี้เป็นเลย

อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่า Sword of Convallaria เป็นเกมแนว Turn-based Strategy ที่ได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากเกม Final Fantasy Tactic ดังนั้นถ้าคุณเคยเล่น FFT มาก่อน คุณไม่ต้องห่วงเลยว่าจะเล่นเกมนี้ไม่เปิด เพราะระบบพื้นฐานแทบจะทุกอย่างมันแทบจะเหมือนกันเป๊ะ เกมเดินเป็นช่อง ๆ ตีข้างหลังจะลดโอกาสป้องกัน อยู่ที่สูงกว่าจะได้เปรียบ เดินขึ้นภูเขาแล้วลดช่องเดิน และอื่น ๆ อีกมากมายที่ใช้มายเซ็ตแบบเดียวกันในการเล่น เพราะงั้นผู้เล่น FFT ทุกคนเมื่อก้าวเข้าสู่เกมนี้บอกเลยว่าเล่นเกมนี้เป็นไปแล้วเกินครึ่งครับ ถ้าใครอยากซ้อมเล่น Sword of Convallaria ก่อนล่วงหน้าก็ลองเล่น FFT ก่อนก็ได้

2. เกมนี้ SKIP ฟาร์มได้ แต่ต้องปั้นหลายตัว

หลายคนอาจจะกำลังกังวลใจว่า Sword of Convallaria เป็นเกมแนว Turn-based Strategy แบบนี้ต้องใช้เวลาในการเล่นนานแน่ ๆ เพราะต่อให้มี Auto ก็ต้องรอมันสู้นาน แต่ไม่ต้องกังวลครับ เกมนี้มีระบบ SKIP ฟาร์มถ้าเพื่อน ๆ เตรียมเงื่อนไขมาครบถ้วน ซึ่งเงื่อนไขก็คือการอัปเลเวลตัวละครอื่น ๆ ใน ID ของเราเพื่อใช้เป็นแรงงาน ยกตัวอย่างเช่น คุณจะลงไปฟาร์มดันเจี้ยนเลเวล 20 คุณไม่สามารถใช้ตัวละครเลเวล 10 ไปลงชนะแน่ ๆ คุณจะต้องอัปเลเวลให้ถึง 20 ไว้สัก 3 ตัว เพื่อที่จะส่งคนไป SKIP ดันเจี้ยนนี้ได้ เพราะงั้นการปั้นตัวละครอาจไม่ต้องถึงกับไปสุดทุกตัวใน ID แต่ว่ามีตัวละครเลเวลเยอะ ๆ ไว้หลายตัวจะเป็นการดีมากครับถ้าคุณอยาก SKIP ด่านน่ะนะ

3. ระบบธาตุและโรลตัวละครจะล็อคกัน

เห็นหลายเกมกาชาชอบแบ่งแยก Role ตัวละคร กับ Element ของตัวละครแยกออกจากกัน แต่สำหรับ Sword of Convallaria นั้นบอกเลยว่ามันคือสิ่งเดียวกัน มีการแพ้ชนะทางกัน คือ เขียวชนะฟ้า ฟ้าชนะแดง แดงชนะเขียว ส่วนเหลืองกับม่วงแพ้ทางกันเอง ส่วนการแบ่งหน้าที่มีดังนี้

  • โรลแทงค์(สีเขียว) – ส่วนใหญ่จะเป็นตัวที่มีโล่ ชนได้ มีสกิลบล็อกหรือ Counter เอาตัวรอดได้นาน ฮีลตัวเองได้บางกรณี โดนรุม 2-3 ตัวก็ไหว แต่แลกมากับการที่ดาเมจน้อยและไม่ค่อยมีสกิลโจมตีจริงจัง
  • โรลสปีด(สีฟ้า) – เป็นได้ทั้งระยะใกล้และไกล ถ้าใกล้จะใช้มีดหรือดาบสั้น ถ้าไกลจะใช้ธนูหรือหน้าไม้ จุดเด่นของโรลนี้คือความเร็วที่ออกเทิร์นได้ก่อนใครเพื่อน และมีจำนวน Move ที่สูงกว่าชาวบ้านทำให้เดินได้ไกลและอ้อมหลังได้ง่าย มักมีสกิล Critical ในการโจมตีศัตรูจากข้างหลัง
  • โรลดาเมจ(สีแดง) – อาจจะใช้ดาบใหญ่ ขวานหรือหอก มีหน้าที่หลักในการกำจัดศัตรูแบบซึ่ง ๆ หน้า มีสกิลผลักให้กระเด็น หรือมีสกิลหมุนโจมตีศัตรูรอบทิศ หรือสกิลพุ่งเข้าชาร์จศัตรูได้เร็ว เป็นตัวปะทะและเป็นดาเมจหลัก แต่จะไม่ถึกเท่าโรลแทงค์และไม่เร็วเท่าโรลสปีด ดูแลตัวเองไม่ได้และหนีไม่ได้ด้วย ต้องมีตัวอื่นคอยช่วย
  • โรลนักบวช(สีเหลือง) – นักบวชหรือพระจะเป็นตัวซัพพอร์ตการเล่นของทีมอยู่เบื้องหลัง หลัก ๆ หน้าที่ของพระก็คือฮีลเพื่อนในทีมเป็นหลัก บางตัวอาจมีสกิลซัพพอร์ตอื่น ๆ แต่บางตัวก็อาจจะมีสกิลดาเมจที่ใช้ยิงศัตรูจากระยะไกลได้ด้วย
  • โรลนักเวทย์(สีม่วง) – นักเวทย์นั้นแสนจะเข้าใจง่าย ไม่ต้องคิดอะไรแค่ยิงเวทย์ให้แรงก็พอ มีทั้งเวทย์เดี่ยวและเวทย์หมู่ บางตัวมีสกิลบัพตัวเองให้เวทย์แรงขึ้น แต่ส่วนใหญ่นักเวทย์จะไม่มีสกิลช่วยเพื่อนหรือช่วยตัวเองให้รอด แต่ก็เป็นโรลที่สร้างดาเมจได้แรงที่สุดครับ

4. ตัวละครหน้าตา Unique จะเก่งกว่าพวกทหารเสมอ

เวลาเปิดกาชาใน Sword of Convallaria หากคุณไม่รู้ว่าตัวละครที่เปิดกาชาออกมา ตัวไหนเก่ง ตัวไหนไม่เก่ง ผมมีทริคให้ง่าย ๆ คือตัวละครตัวไหนที่หน้าตาแปลกกว่าเพื่อน ตัวนั้นคือตัวละครที่เก่ง เพราะเนื้อเรื่องในเกมนี้จะเป็นแนวสงครามแบ่งฝ่าย เรามีคนที่แต่งตัวเหมือนกันจำนวนมาก เหมือนยูนิฟอร์มทหารที่ต้องใส่ให้เหมือนกัน แต่ถ้าใครที่แต่งตัวไม่เหมือนกัน มีหน้ามีตา ดูโดดเด่นกว่าคนอื่น ถึงแม้จะไม่ใช้ระดับ Legendary คุณก็เชื่อเถอะว่าตัวละครพวกนั้นเก่งกว่าตัวที่ดูจืด ๆ แน่นอน แต่ก็ใช่ว่าจะเล่นพวกทหารไม่ได้นะ ถ้าในแง่ของการใช้งานไปก่อนก็โอเค ส่วนตัวไหนที่ปั้นมาแล้วก็เอาไว้ SKIP ด่านก็ได้

5. มีระบบ Life Simulator ให้บริหารและสำรวจเมือง

นอกจากเกมเพลย์ในเชิง Battle แล้ว จริง ๆ Sword of Convallaria ยังมีอีกหนึ่งส่วนที่น่าสนใจคือในส่วนของตัวเมืองครับ เวลาเพื่อน ๆ ไม่ได้เข้าไปสู้หรืออยู่ในล็อบบี้ นั่นหมายถึงเรากำลังอยู่ในเมืองของเรา เราสามารถเลือกสถานที่ไปแวะชมสิ่งต่าง ๆ หรือทำภารกิจก็ได้ เช่น ส่งคนออกไปฟาร์มทรัพยากรมาไว้คราฟท์ไอเทม สั่งทำอาวุธจากช่างตีเหล็ก ไปคุยกับโบสถ์เพื่อให้ตัวละครได้พัก หรือจับตัวละครเลเวลน้อยลงสนามฝึกเพื่อให้พวกเขาอัปเลเวลเอง นอกจากนี้ยังสามารถไปพูดคุยกับ NPC ตามบาร์เพื่อเสพเนื้อเรื่องและความสัมพันธ์ตัวละครได้อีกด้วย

6. Speed ของตัวละครใช้จัดลำดับเทิร์นเล่น

Sword of Convallaria เป็นเกม Turn-based แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวละครไหนออกก่อน ค่าสเตตัสที่สำคัญเกี่ยวกับการออกเทิร์นคือค่า Speed ครับ ยิ่งตัวละครมีค่า Speed มากก็ยิ่งมีโอกาสให้ตัวละครนั้นออกเทิร์นก่อนใคร เพราะงั้นพวกโรลสปีดสีฟ้าเลยได้เล่นก่อนทุกครั้ง ซึ่งถ้าเกิดว่าคุณไม่ชอบที่จะถูกแทรกจากเทิร์นของศัตรู คุณสามารถจัดทีมที่มีความเร็วใกล้เคียงกันแล้วให้ตัวละครออกเทิร์นเป็นลำดับขั้นต่อเนื่องกัน เวลารุมโจมตีศัตรูจะได้จัดการทีเดียวไม่ต้องถูกแทรกเทิร์นครับ

7. เปิดเซิร์ฟมาเล่นเควสต์มือใหม่ เอาตัว Legendary มาใช้

โดยปกติแล้วใน Sword of Convallaria เซิร์ฟจีนจะมีเควสต์มือใหม่ 7 วัน ที่หากเราทำไปได้ถึงวันที่ 7 ก็จะได้ตัวละครระดับ Legendary มาใช้เป็น Rawiyah ถ้าเซิร์ฟ Global เป็นตัวเดิมขอบอกเลยว่าควรพาเธอเข้าทีมให้ได้ เพราะเธอจะเป็นกำลังรบหลักที่ดีมาก สามารถโจมตีแนวตั้งได้ 2 ช่อง แถมยังผลักศัตรูได้ทุกการโจมตีปกติ ซึ่งการผลักของเกมนี้มีผลมาก มันทำให้ตกตายได้ ผลักไปชนศัตรูได้ ผลักไปชนระเบิดได้ ซึ่งการผลักเป็นสกิลอย่างหนึ่งที่ใช้แล้วมีคูลดาวน์ แต่สำหรับ Rawiyah เป็นตัวที่ผลักได้ไม่อั้นแถมดาเมจยังได้เน้น ๆ ไม่เหมือนการเตะผลักธรรมดา เพราะงั้นพาเธอมาให้ได้ครับ (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต)

8. โหมดเกลียวแห่งโชคชะตา ระบบชวนงงที่ต้องเล่น

ถ้าคุณอยากทำเควสต์มือใหม่ หรือฟาร์มเพชรภายในเกม คุณก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงโหมดเกลียวแห่งโชคชะตาภายในเกม Sword of Convallaria ได้ เพราะโหมดนี้คือโหมดที่จะทำให้คุณเล่นเนื้อเรื่อง โรลเพลย์เป็นตัวละครในเกม ไม่ใช้ทีมที่คุณปั้นไว้แต่จะใช้ทีมที่เกมจัดมาให้แทน ในเกมคุณจะได้บริหารเมืองแบบมีเวลานับถอยหลัง ศัตรูจะบุกแล้วนะ เหลือเวลาอีก 7 วัน คุณจะทำอะไรบ้าง ฟาร์มของเพิ่ม ส่งทหารไปพัก หรือพัฒนากองทัพ พูดคุยกับ NPC อัปเกรดอุปกรณ์ ก่อนที่สงครามกำลังจะมาถึง คุณจะเตรียมพร้อมได้แค่ไหนโดยที่ทหารในมือไม่ใช่ตัวที่คุณปั้นไว้เลย ชนะศึกนี้แต่ถ้าทหารของคุณเหนื่อยล้าก็อาจจะชนะศึกหน้าไม่ไหว มันเป็นระบบที่เล่นยากกว่าโหมดปกติแต่มันก็จำเป็นต้องเล่นเพราะเป็นเควสต์บังคับ

9คำพูดจาก คาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย . การอัปสกิลตัวละครจะมีทางเลือก 2 ทางเสมอ

ตัวละครทุกตัวที่เราเลือกอัปเลเวลในเกม Sword of Convallaria จะทำให้ตัวละครปลดล็อคการอัปเลเวลสกิลมาด้วย ซึ่งสกิลแต่ละชนิดของตัวละครจะมีทางแยกซ้ายขวา 2 ทางเลือกเสมอ โดยจะแบ่งเป็นสกิลสายรุกและสกิลสายรับ ทั้งแบบ Active และ Passive สกิล ถ้าเพื่อน ๆ เลือกสายรุกก็อาจจะทำให้กำจัดศัตรูได้เร็วขึ้น เลือกใช้งานได้หลายสถานการณ์มากขึ้น แต่ถ้าเลือกสายรับก็อาจจะทำให้ตัวละครเอาตัวรอดได้นานขึ้น ตายยากขึ้น และยื้อเวลาได้นานขึ้น ซึ่งก็แล้วแต่ผู้เล่นเลยว่าตัวละครตัวไหนจะอัปสกิลอะไรบ้าง ไม่จำเป็นต้องอัปตามโรลที่เล่นอย่างเดียวเสมอไปครับ

10. ดันเจี้ยนทรัพยากรมี x2 ครั้งแรกรีเซ็ตทุกวัน

คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ดันเจี้ยนทรัพยากรในเกม Sword of Convallaria จะมีหลายอย่างให้เลือกฟาร์ม ซึ่งแน่นอนว่ามัน SKIP ได้จากที่กล่าวมาข้างต้น แต่สิ่งที่ผู้เล่นควรทราบก็คือว่าถ้าหากเกมนี้เป็นเหมือนเซิร์ฟจีนล่ะก็ ดันเจี้ยนทรัพยากรจะมี x2 ครั้งแรกของวันทุกดันเจี้ยน ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะเอา Stamina ไปลงที่ไหน แนะนำว่าให้ฟาร์มไปเลยทุกดันเจี้ยนที่มี x2 แบบนั้นจะได้รับทรัพยากรอย่างครอบคลุมที่สุดครับ

และนี่คือ “10 สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเล่น Sword of Convallaria” หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านนะครับ ผมเองที่เคยเล่นเซิร์ฟไต้หวันมาแล้วก็รู้สึกว่าเป็นเกมที่น่าเล่นพอสมควร แต่ติดแค่ว่าไม่มีภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็เลยอ่านลำบากนิดนึง พอมีเซิร์ฟ Global ก็น่าจะทำให้เล่นสะดวกขึ้นเยอะ ขอให้สนุกกับเกม Sword of Convallaria นะครับ 🙂

Sword of Convallaria เกมมือถือ